Close
Thailand and the world with daily News updates including news, articles.
About       Advertising       Contact

รู้เท่าทันสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และวิธีการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ หรือตึกสูง เรามักจะได้ยินการนำเสนอข่าว ว่า ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุเพลิงไหม้จากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร และถึงแม้ว่าการเกิดอัคคีภัยสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งการเปิดแก๊สทิ้งไว้ จุดเทียนแล้วไฟเกิดลาม ฯลฯ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะสรุปเป็นไฟฟ้าลัดวงจร หากไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? 

นั่นเป็นเพราะว่า ในทุกอาคารที่มีคนอาศัยหรือทำกิจการงาน จะต้องมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่ว่าจะภายในอาคารหรือนอกอาคาร เนื่องจากไฟฟ้าอยู่ในทุกกิจกรรมของการดำเนินชีวิต ยิ่งปัจจุบันหลายๆบ้าน หรือแม้แต่สำนักงาน ห้างร้านค้า มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวกจำนวนมาก ในขณะที่หม้อแปลงไฟฟ้าเท่าเดิม หรืออุปกรณ์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานนาน เก่าและเสื่อมคุณภาพ ไม่สามารถรองรับกระแสไฟปริมาณมากได้ จนเกิดความร้อนสูงและทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วหรือประกายไฟ ตัวอย่างไฟฟ้าลัดลงจรจนเกิดการลุกไหม้ เช่น เหตุการณ์ไฟไหม้ที่ตลาดสำเพ็ง หรือ ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าย่านพระรามเก้า เป็นต้น 

เหตุการณ์ไฟไหม้ที่ตลาดสำเพ็งเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

ไฟฟ้าลัดวงจร คืออะไร

Short Circuit หรือ ไฟฟ้าลัดวงจร หมายถึง การไหลของกระแสไฟฟ้าในแต่ละจุดที่มีแรงดันไฟต่างกัน แล้วเกิดการสัมผัสกัน ทำให้เกิดการถ่ายเทพลังงานจำนวนมาก จนเกิดความร้อนสูงและอาจเกิดประกายไฟ โดยแบ่งไฟฟ้าลัดวงจรได้เป็น 2 แบบ คือ 

  1. ลัดวงจรจากสายไฟเส้นหนึ่งไปยังสายไฟอีกเส้นหนึ่ง 
  2. ลัดวงจรจากสายไฟลงดิน 

ส่วนกรณี ไฟฟ้าช็อต หรือ ไฟดูด เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเช่นกัน แต่จะเป็นการเกิดจากกระแสไฟฟ้าสัมผัสกับสิ่งอื่นที่ไม่ได้อยู่ระบบไฟฟ้า เช่น มนุษย์ หรือสื่อนำไฟฟ้าอย่าง น้ำ หรือ โลหะ ในขณะหรือบริเวณที่มีกระแสไฟฟ้ารั่ว ทำให้ถูกไฟฟ้าดูดหรือช็อต ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต

ทำไมไฟฟ้าลัดวงจรทำให้เกิดเพลิงไหม้

อาอาการลัดวงจรไฟฟ้าไฟฟ้าทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลในระบบระบบวงจรเป็นจำนวนมาก ในวงจรไฟฟ้าโดยปกติโดยปกติจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องตัดไฟรั่ว เซอร์กิตเบรกเกอร์ ฟิวส์ ซึ่งซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้า  แต่เมื่อไรที่เมื่อไรที่อุปกรณ์ป้องกันเหล่านี้เหล่านี้ไม่ทำงาน กระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในปริมาณมากจะสะสมความร้อนจนทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ฉนวนไฟฟ้าหลอมละลาย จนเกิดประกายไฟและเป็นสาเหตุเพลิงไหม้นั่นเอง 

สาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร

1. ใช้คัตเอาท์ไฟฟ้าแบบเก่า

เนื่องจากคัตเอาต์ไฟฟ้าแบบเก่า จะเป็นการใช้มือยกขึ้น – ลง เท่านั้น จึงจะตัดระบบไฟฟ้าได้ แต่ถ้าหากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือกระแสไฟฟ้ารั่ว ระบบแมนนวลของคัตเอาต์แบบนี้จะไม่ตัดไฟอัตโนมัติ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อทรัพย์สินและชีวิตผู้อยู่อาศัยได้ตลอดเวลา 

2. อุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดหรือเสื่อมสภาพ

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ล้วนมีอายุการใช้งานจำกัด หากใช้อุปกร์ไฟฟ้าที่มีอายุนานหรือเก่าเกินไป เช่น ใช้สายไฟที่อายุนานเกิน 10 ปี เพราะโดยทั่วไปแล้ว สายไฟจะมีอายุการใช้งานประมาณ 7 – 8 ปี และด้วยสายไฟทุกเส้นจะมีพลาสติกห่อหุ้มเป็นฉนวน เพื่อไม่ให้ลวดนำไฟฟ้าสัมผัสกันเองหรือสิ่งอื่น แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ฉนวนสายไฟอาจเสื่อมสภาพด้วยสิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศ ทำให้ประสิทธิภาพฉนวนไฟเสื่อม ฉีกขาด จนลวดไฟภายในสัมผัสกันเองหรือสัมผัสสื่อนำไฟฟ้า หรือลวดนำไฟฟ้าภายในเสื่อมคุณภาพจากการใช้งานระยะเวลานาน ก็ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเพลิงไหม้ได้ 

3. อุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ 

ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าภายโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งปลั๊กไฟ ปลั๊กราง หรือ สายไฟ ล้วนเป็นอุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา หากใช้วัสดุเหล่านี้ด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ และไม่มีมาตรฐานในการผลิต อาจไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการรองรับกระแสไฟฟ้า ทำให้ปลั๊กไหม้ได้ง่ายและเสี่ยงต่อกระแสไฟรั่วหรือลัดวงจร 

4. เดินสายไฟฟ้าไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน

ระบบไฟฟ้าทุกประเภทจะต้องติดตั้งอย่างระมัดระวัง และติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญการโดยเฉพาะ เพราะจะต้องติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคารให้ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและผู้อาศัย หากผู้ติดตั้งไม่มีความรู้มากพอ หรือติดตั้งระบบไฟฟ้าไม่ถูกต้อง ย่อมเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากกระแสไฟฟ้าได้ตลอดเวลา 

5. ใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง

การใช้ไฟฟ้าเกินกำลังนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ในขณะที่สายไฟเส้นเล็กเกินไป หรือต่อปลั๊กพ่วงมากเกินไป ทำให้มีปริมาณกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก สะสมความร้อนจนอุปกรณ์รับไม่ไหว และเกิดการลัดวงจรในที่สุด 

วิธีการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร

1. ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์

เซอร์กิตเบรกเกอร์จะทำหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้าทันที หากพบความผิดปกติของวงจรไฟฟ้า ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าเกินหรือไฟรั่ว จนเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานและคนอาศัยในอาคารได้ ดังนั้นบ้านไหนที่ยังใช้ระบบคัตเอาท์แบบใช้มือยกขึ้น – ลง อยู่ ควรเปลี่ยนมาใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ เพราะจะช่วยตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยให้กับคนในบ้านมากขึ้น 

2. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน

ปัจจุบันมักจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าราคาถูกๆจำหน่ายทั่วไป ทั้งในตลาดนัด หรือแม้แต่การช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งวัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะไม่ได้มาตรฐาน และคุณภาพต่ำ จึงทำให้มีราคาถูก แต่เสี่ยงต่อความปลอดภัยอย่างมาก หลายครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพราะปลั๊กไฟไหม้ หรือเบรกเกอร์ไม่ทำงาน ซึ่งซื้อมาราคาถูกๆจากตลาดนัดทั่วไป ดังนั้นควรเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากร้านหรือบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าจึงจะปลอดภัยที่สุด

3. ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าให้เหมาะสม

การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจะต้องคำนึงถึงกำลังการรองรับกระแสไฟฟ้า และต้องเหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น กำลังวัตต์ไฟฟ้าของปลั๊กรางรองรับได้เท่าไร และสามารถต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้กี่วัตต์ เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนวัตต์ไฟฟ้าที่ใช้งานจริงได้ เพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง จนอาจเกิดอันตรายได้ และควรหลีกเลี่ยงการต่อปลั๊กรางเป็นทอดๆ หรือต่อปลั๊กพ่วงหลายหัวในเต้าเสียบเดียวกัน 

4. ตรวจสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำ

ควรหมั่นตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่า ชำรุด หรือทำงานผิดปกติ จะได้แก้ไขได้ทัน ก่อนที่จะสายเกินไป 

5. ซ่อมแซมและเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เก่าหรือชำรุด

เมื่อพบเห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเก่า ชำรุด มีรอยฉีกขาด หรือมีสิ่งผิดปกติ เช่น มีกลิ่นไหม้ พลาสติกเก่าจนมีสีเหลืองหรือกรอบ หรือมีกระแสไฟรั่ว ควรทำการตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณนั้นทันที และเปลี่ยนอุปใหม่ทันทีอย่าเสียดายหรือปล่อยทิ้งไว้จนทำให้เกิดอันตราย จะกลายเป็นวัวหายล้อมคอก ไม่คุ้มแน่นอน 

อุปกรณ์ใดช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรบ้าง

อุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือ Short circuit ได้แก่ เซอร์กิต เบรกเกอร์ ประเภทต่างๆ ทั้งอุปกรณ์จำพวก RCD อย่าง RCBO  RCCB  เมนเบรกเกอร์ เบรกเกอร์ลูกย่อย MCB และ MCCB หรือเบรกเกอร์ที่ใช้กับงานสตาร์ทมอเตอร์อย่าง Motor Breaker ที่มีโอเวอร์โหลด รีเลย์อยู่ในตัว ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ควรจะต้องเลือกที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงในการทำงาน เพราะเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยต่อชีวิต ดังนั้นหากต้องการจะเปลี่ยนหรือเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าติดตั้งในบ้าน หรือผู้รับเหมาติดตั้งวงจรไฟฟ้า จะต้องคำนึงถึงมาตรฐานอุปกรณ์เหล่านี้ให้มากที่สุด โดยเลือกแบรนด์สินค้าที่มีแหล่งผลิตที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย หรือเลือกซื้อจากร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายโดยตรง อย่าง SQD Group ที่เปิดบริการและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าจากแบรนด์ระดับโลกมาอย่างยาวนาน และไม่ว่าจะมองหาอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทใด ติดตั้งในบ้านหรือในอาคารขนาดใหญ่ ก็มีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ให้คำแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยในการใช้งาน 

เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรควรทำอย่างไร

เมื่อเกิดอาการไฟฟ้าลัดวงจร จะต้องรีบทำการตัดกระแสไฟฟ้าให้เร็วที่สุด และห้ามสาดน้ำก่อนตัดกระแสไฟฟ้าเด็ดขาด และห้ามไปช่วยคนถูกไฟดูดด้วยการสัมผัสตัวหากยังไม่มีการตัดกระแสไฟฟ้าเช่นกัน เพราะคนช่วยก็จะถูกไฟดูดตามไปด้วย 

การคำนึงถึงความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกเสมอในการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่อาศัย จึงต้องเลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง และติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ รวมถึงการติดตั้งถูกตามมาตรฐานกำหนด ไม่ใช่อะไรก็ได้ หรือซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าราคาถูกแต่ไม่มีคุณภาพ เพราะเรื่องไฟฟ้านั้น ไม่ควรประมาทเป็นอย่างยิ่ง และควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเอง และจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้อีกด้วย 

scroll to top