Close
Thailand and the world with daily News updates including news, articles.
About       Advertising       Contact

ทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด

ทำไมต้องกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดนี้ได้รับการยอมรับมานานแล้วว่า ช่วยในเรื่องภูมิแพ้ดีขึ้นได้มาก โดย ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ผู้ที่ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา อธิบายว่า เขาเชื่อว่าเลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีที่แตกต่างกัน มีแอนติเจนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โดยอาหารทุกชนิดมีโปรตีนเป็นอนุมูลอิสระจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า “เลกติน” หากเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด อาจทำให้เลกตินรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร มีปัญหาการสร้างอินซูลิน และส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมน 

หมู่เลือดของเราจะแบ่งออกเป็นกรุ๊ปเลือดหลักได้อย่างนี้ กรุ๊ป A  กรุ๊ป B   กรุ๊ป O  และ กรุ๊ป AB โดยในหมู่เลือดของเราจะมีอยู่ 2 ระบบ คือ

  1. ระบบ ABO  คือหมู่เลือดที่แบ่งเป็น เอ บี โอ และ เอบี คนไทยส่วนใหญ่จะมีเลือดกรุ๊ปโอ
  1. ระบบ Rh แบ่งเป็น Rh (+) Rh (-) ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะมีหมู่เลือด Rh(+) โดยจะมีประชากรที่มีหมู่เลือด Rh (-) เพียงประมาณ 03% 

ด้วยหมู่เลือดที่แตกต่างกัน ทำให้ความสามารถในการย่อยก็ต่างกันไปด้วย  เมื่อย่อยได้หมดร่างกายจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์เต็มที่ แต่ถ้าย่อยไม่หมดจะทำให้ตกค้างในร่างกายและอาจส่งผลให้ป่วยได้ เรามาดูกันว่า เลือดแต่ละกรุ๊ปควรทานอะไรและควรงดอะไรดี เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 

ชนิดกรุ๊ปเลือด

  1. เลือดกรุ๊ป A จะย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์ยากสักหน่อยแทบจะน้อยที่สุดเลยและต้องกินผักมากที่สุด แทบจะเรียกคนกรุ๊ปเอเป็นนักมังสวิรัตได้เลย เพราะในกระเพราะอาหารมีกรดต่ำมากและมีความเข้มข้นของเลือดสูง ถ้ากินเนื้อสัตว์มากหรือบ่อยเกินไป จะทำให้เลือดหนืดและไหลเวียนได้ช้า ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เบาหวาน และโรคหัวใจได้ และประสิทธิภาพการทำงานของภูมิคุ้มกันก็ไม่เต็มที่ 
  • อาหาร  เนื้อปลา อย่าง ปลาทู ปลาแซลมอน ปลาค้อด ปลากะพง ปลาซาร์ดีน แต่ควรเลี่ยงการทานปลาตาเดียวหรือปลาจะระเม็ด เพราะมีเลกตินสูง จะทำให้เลือดหนืดข้นและไหลเวียนลำบาก ทานไข่และข้าวกล้องหรือซีเรียลบ้าง หรือถ้าต้องการทานในส่วนโปรตีนเสริมให้เลือกทานนมถั่วเหลืองแทนนมวัว หรือทานพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วแดง เมล็ดฟักทอง เต้าหู้ เป็นต้น 
  • ผัก ที่มีกากใยได้แทบทุกชนิดทั้งแบบดิบและสุก เพื่อช่วยในระบบย่อย เช่น บรอกโคลี ผักเคล คะน้า แครอท ผักโขม 
  • ผลไม้ ทานได้หลายชนิด แต่ควรงดทาน ส้ม มะม่วง กล้วย แคนตาลูป และมะละกอ เพราะย่อยยากและระคายเคืองกระเพาะอาหาร 
  • เครื่องดื่ม ไวน์แดง ชา กาแฟ สามารถดื่มได้หลังอาหารเพื่อเป็นการเพิ่มกรดช่วยย่อยอาหาร แต่สำหรับการดื่มกาแฟไม่ควรเกินวันละ 1 แก้ว และไม่ควรดื่มนมวัว เบียร์ และโซดา 
  • อาหารที่กรุ๊ปเอควรทาน ปลาค้อด ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน บรอกโคลี เซเลอร์รี่ พาร์สลีย์ กระเทียม ขิง ขมิ้น ผักโขม หอมเล็ก หอมใหญ่ ลูกพรุน ลูกพลัม น้ำมันมะกอก ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง เลมอน สับปะรด น้ำมันมะกอก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ถั่ววอลนัต เป็นต้น 
  • อาหารที่กรุ๊ปเอควรหลีกเลี่ยง มะระ มะเขือเทศ มะเขือม่วง ข้าวโพด มันฝรั่ง กล้วย มะม่วง มะขาม มะละกอ มะพร้าว ส้ม ถั่วแดง ถั่วพิสตาชิโอ เม็ดมะม่วงหิมมะพานต์ เป็ด หมู แฮม เบคอน กุ้ง ปลากะตัก ปู ปลาดุก หอยนางรม ผลิตภัณฑ์นมวัว เป็นต้น 
  1. เลือดกรุ๊ป B เป็นกรุ๊ปเลือดที่น่าอิจฉาที่สุดเพราะสามารถทานได้แทบทุกอย่าง รับประทานเนื้อสัตว์และผักผลไม้ได้หลากหลาย แต่จะมีปัญหาในเรื่องภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ตัวเอง มีอาการปวดตามข้อเป็นประจำ และสามารถอ้วนได้ง่าย 
  • อาหาร   แนะนำให้ทาน ไก่งวง ปลาแซลมอน ปลาเนื้อขาว เช่น ปลาตาเดียว ปลาจะระเม็ด ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควรหลีกเลี่ยงเนื้อไก่ ปู กุ้ง หอยแครง หอยเชลล์ แป้งสาลี แป้งโฮลวีท และถั่วลิสง
  • ผัก ผักใบเขียวแทบทุกชนิด เพราะมีแมกนีเซียมสูง จะช่วยป้องกันโรคภูมิแพ้และผื่นคันได้ ควรเลี่ยงผลไม้รสหวานหรือทานให้น้อย แนะนำทานสับปะรด เพราะมีเอนไซม์ช่วยให้ย่อยง่าย และคนเลือดกรุ๊ปบีแพ้อากาศง่าย จึงควรดื่มน้ำขิง ชาเขียว เปปเปอร์มินต์ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายไม่เป็นหวัดง่าย และยังช่วยบำรุงประสาทอีกด้วย 
  • ผลไม้ กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะ สับปะรด มีเส้นใยอาหารสูง แต่ผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ลูกพลับ ลูกแพร์ และทับทิม 
  • เครื่องดื่ม น้ำขิง โสม ชาเขียว เปปเปอร์มินต์ ช่วยบำรุงประสาท 
  • อาหารกรุ๊ปบีควรทาน ปลาซาร์ดีน ปลาค้อด กะหล่ำปลี บรอกโคลี่ ขิง ขมิ้น แครนเบอร์รี่ สับปะรด ลูกพลัม ลูกพรุน แตงโม ชาเขียว น้ำมันมะกอก เป็นต้น 
  • อาหารที่กรุ๊ปบีควรหลีกเลี่ยง ไก่ เป็ด เบคอน แฮม ปลากะพง กุ้งมังกร ปู หอยนางรม ข้าวโพด ทับทิม มะพร้าว มะเขือเทศ ดอกคำฝอย มะระ ข้าวสาลี ถั่วพิสตาชิโอ เมล็ดฟักทอง อะโวคาโด เป็นต้น 
  1. เลือดกรุ๊ป O จะมีความเป็นกรดสูงในกระเพาะอาหาร ย่อยอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ได้ดีกว่ากรุ๊ปอื่นๆ ทำให้อาหารถูกย่อยเร็ว สามารถนำไปใช้ในส่วนต่างๆของร่างกายได้ดี ส่งผลให้หิวง่ายและอ้วนง่ายด้วย เนื่องจากคนกรุ๊ปโอมักมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนไทรอยด์ไม่คงที่ จึงควรงดคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว แป้ง น้ำตาล
  • อาหาร ควรรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ที่มีไขมันไม่สูง เช่น อาหารทะเล  มากกว่าเนื้อหมู กินนมเนยในปริมาณที่พอเหมาะ 
  • ผัก บร็อกโคลี เพราะมีวิตามินเคสูง ผักกาดคอส หอมหัวใหญ่ ผักคะน้า สาหร่ายทะเล แต่ควรเลี่ยงผักใบขาว เช่น กะหล่ำปลี เพราะจะไปส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ เลี่ยงมะกอกดองและเห็ดหอม เพราะทำให้เกิดการแพ้  และมะเขือยาวกับมันฝรั่งก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้ปวดข้อ 
  • ผลไม้ สามารถทานผลไม้ได้ทุกชนิด โดยเฉพาะตระกูลเบอร์รี่ อย่างบลูเบอร์รี่และเชอร์รี่  เกรปฟรุตจะช่วยลดน้ำหนักได้ดี แต่ผลไม้ที่ควรเลี่ยงหรือทานให้น้อย คือ สตรอว์เบอร์รี่ แคนตาลูป มะพร้าว เพราะมีกรดสูง ถ้าทานมากๆ จะทำให้เพิ่มกรดในกระเพาะมากเกินไป  
  • เครื่องดื่ม ควรเป็นชาสมุนไพรต่างๆ เช่น ชาเปปเปอร์มินต์  ชาพาร์สลีย์ ส่วนชาที่ทำจากใบชา กาแฟ เบียร์ ควรงด เพราะจะไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหารที่มีสูงอยู่แล้วให้ยิ่งสูงขึ้นไปอีก
  • อาหารที่กรุ๊ปโอควรทาน ปลาค้อด ปลาเทราต์ ปลาจะระเม็ด ปลากะพงแดง ผักโขม บรอกโคลี พาร์สลีย์ สาหร่ายทะเล บลูเบอร์รี่ ชาเขียว น้ำมันมะกอก สับปะรด ขิง ขมิ้น กระเทียม หอมใหญ่ หอมเล็ก  เป็นต้น 
  • อาหารที่กรุ๊ปโอควรหลีกเลี่ยง  ปลาดุก เบคอน ผลิตภัณฑ์จากนมวัว ข้าวสาลี ข้าวโพด ดอกกะหล่ำ ถั่วลิสง ถั่วพิสตาชิโอ ถั่วขาว เมล็ดทานตะวัน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เบียร์ แตงกวา มันฝรั่ง กีวี แคนตาลูป มะพร้าว พริกไทย น้ำมันถั่วเหลือง อะโวคาโด ข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ เป็นต้น 
  1. เลือดกรุ๊ปAB เนื่องจากเลือดกรุ๊ปนี้เป็นลูกผสมระหว่าง  A และ  B จึงสามารถทานได้ทั้งแบบสลับวันเน้นเนื้อวันถัดไปเน้นผัก หรือจะทานเน้นอย่างละครึ่งๆก็ได้ เพิ่มการทานผลิตภัณฑ์ถั่ว เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ เพื่อเพิ่มโปรตีน 
  • ผัก ทานผักได้ทุกชนิด ควรทานผักสดมากกว่าผักสุก เช่น สลัด น้ำพริกผักสด  ควรหลีกเลี่ยงถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง ข้าวโพด 
  • ผลไม้ ผลไม้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม สับปะรด ส้มโอ ตระกูลเบอร์รี่  เข้าไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารให้ช่วยขับย่อยอาหารได้ดีขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยง ฝรั่ง กล้วย มะพร้าว มะม่วง
  • เครื่องดื่ม ที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปนี้คือ ไวน์แดง แต่ควรไม่เกิน 1 แก้ว ชาเขียว ชาคาโมมายล์ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น 
  • อาหารที่กรุ๊ปเอบีควรทาน ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี กระเทียม ขิง ขมิ้น แครนเบอร์รี่ เชอร์รี่ เลมอน สับปะรด องุ่น ถั่วเหลือง พาร์สลีย์ ปลาซาร์ดีน วอลนัต น้ำมันมะกอก เมล็ดแฟล็กซ์ 
  • อาหารที่กรุ๊ปเอบีควรหลีกเลี่ยง เบคอน แฮม ไก่ เป็ด ปู ปลาเทราต์ ปลาลิ้นหมา กุ้ง หอย นางรม หัวไชเท้า พริกไทย เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเขียว มะม่วง ส้ม อะโวคาโด มะพร้าว กล้วย ดอกคำฝอย เป็นต้น 

บทความนี้เป็นเพียงแค่ไกด์ไลน์ที่สามารถนำไปปรับเมนูอาหารในแต่ละมื้อได้อย่างง่ายๆ ไม่ได้เสียหายอะไรหากจะลองนำไปปรับใช้ดู เพราะอาหารที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อาหารบางอย่างอาจมีประโยชน์สูงสุดกับกรุ๊ปเลือดหนึ่ง แต่อาจมีโทษกับเลือดอีกกรุ๊ปหนึ่งเพราะไม่สามารถย่อยได้หมด ทำให้สารอาหารตกค้างในร่างกาย ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หมดหรือไม่สามารถถูกขับออกได้ ก็ทำให้อาหารเน่าเสีย ทำให้เป็นพิษและทำให้เจ็บป่วยได้ นอกจากทานอาหารให้ตรงกับกรุ๊ปเลือดแล้ว ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะเมื่อสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจก็จะสมบูรณ์ 

scroll to top