สมุนไพรไทยขึ้นชื่อว่า เป็นทั้งอาหารและเป็นทั้งยา กินได้ประโยชน์มากมาย เราจึงจะมาชวนทุกคนนำสมุนไพรมาทำเป็นเครื่องดื่มกันบ้าง ทำง่าย ดื่มดี มีคุณประโยชน์ด้านยาดีอีกด้วย ยิ่งช่วงอากาศเปลี่ยน ทำให้ป่วยได้ง่าย มาทำน้ำสมุนไพรดื่มต้านโรค เสริมภูมิคุ้มกันกันดีกว่าค่ะ

1. น้ำสมุนไพร 3 เกลอ ขิง ตะไคร้ ใบเตย แก้อาการมือเท้าชา
สำหรับใครที่มักจะมีอาการมือชา เท้าชา ลองทำน้ำสมุนไพร 3 ชนิด มี ขิง ตะไคร้ ใบเตย นำไปต้มด้วยกัน จะได้รสชาติเผ็ดร้อน แต่มีกลิ่นหอมชวนดื่ม จะดื่มแบบอุ่น ๆ หรือจะดื่มแบบแช่เย็น ก็ชื่นใจไปอีกแบบ
ส่วนผสมน้ำสมุนไพร 3 เกลอ
- ขิง ทุบหั่นแว่น
- ตะไคร้ ทุบหั่นท่อน
- ใบเตย หั่นท่อน
- น้ำสะอาด
วิธีทำน้ำสมุนไพร 3 เกลอ
- นำขิง ตะไคร้ ใบเตย ล้างให้สะอาดและหั่นให้เรียบร้อย
- นำสมุนไพรทั้งหมดใส่ลงหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำสะอาดให้ท่วม
- เปิดไฟ ต้มให้เดือดจัด ประมาณ 15-20 นาที ตักฟองออกเพื่อให้น้ำใส
- ปิดไฟ ตักน้ำสมุนไพรใส่แก้วดื่มตอนอุ่น ๆ หรือตั้งให้หายร้อนแล้วกรองใส่ขวดแช่เย็น
วิธีดื่ม : ดื่มแบบอุ่น ๆ : ดื่ม 1 แก้ว ก่อนอาหารเช้า-เย็น (ใส่น้ำผึ้งเพิ่มรสชาติได้) ดื่มต่อเนื่อง 15-30 วัน
วิธีการเก็บ : กรองเอาแต่น้ำแล้วเก็บแช่เย็นได้ประมาณ 5-7 วัน

2. น้ำกระชาย ข่า ใบกะเพรา แก้ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ
สำหรับผู้ที่มีอาการไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ โดยเฉพาะช่วงอากาศเปลี่ยนที่มักทำให้คนไม่สบาย เป็นหวัดกันได้ง่าย หากที่บ้านมี กระชาย ข่า ใบกะเพรา นำมาต้มดื่มบรรเทาอาการ และยังดื่มคลายหนาวได้ดี จากฤทธิ์ร้อนของสมุนไพรที่จะช่วยเข้าไปเพิ่มอบอุ่นให้กับร่างกาย
ส่วนผสมน้ำสมุนไพร 3 ชนิด
- กะเพราะ
- กระชาย
- ข่า
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
วิธีน้ำสมุนไพร 3 ชนิด
- ทุบกระชายและข่าให้พอแตก มีกลิ่นระเหยออกมา
- นำสมุนไพรทั้ง 3 ไปต้มให้เดือดจัด ประมาณ 20-30 นาที
วิธีใช้น้ำสมุนไพรบรรเทาอาการหวัด
- อบไอน้ำจากหม้อต้ม หรือสูดดมไอน้ำสมุนไพรขณะอุ่นไ เพื่อลดเชื้อในลำคอ ลดเสมหะ บรรเทาอาการหวัด
วิธีดื่มน้ำสมุนไพร
- ดื่มขณะอุ่น ๆ วันละ 1-2 แก้ว

3. น้ำสมุนไพร 7 ชนิด ลดเสมหะ มีน้ำมูก
ส่วนผสมน้ำสมุนไพร 7 ชนิด
- ขิง
- ข่า
- ตะไคร้
- มะกรูด
- ใบมะกรูด
- หอมแดง
- กระชาย
- ใบเตย
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
วิธีทำน้ำสมุนไพร 7 ชนิด
- นำสมุนไพรทั้งหมดใส่รวมกันในหม้อที่จะต้ม
- ใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วมสมุนไพร
- ต้มจนเดือด ประมาณ 20-30 นาที
วิธีใช้น้ำสมุนไพรลดน้ำมูก ลดเสมหะ :
- สูดดมไอน้ำสมุนไพร หรือใช้วิธีการอบด้วยการนำผ้ามาคลุมขณะทำการสูดดมไอน้ำสมุนไพร แล้วสูดเอาไออุ่นเข้าไปในจมูกและลำคอ เพื่อล้างพิษในร่างกายให้ออกมาทางเหงื่อ ช่วยขับเสมหะ ทำให้หายใจสะดวกขึ้น ลดไข้ แก้ไอ และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
วิธีดื่มน้ำสมุนไพร
- ดื่มขณะอุ่น ๆ วันละ 1 แก้ว

4. น้ำสมุนไพรแก้ภูมิแพ้อากาศ แก้หวัด
ใครที่มักจะเป็นภูมิแพ้อากาศ มีอาการหวัด คัดจมูก เจ็บคอ และมีเสมหะบ่อย ลองต้มน้ำสมุนไพร 5 เกลอ เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้น แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถดื่มได้บ่อย โดยไม่ต้องกลัวมีผลข้างเคียงเหมือนยาปฏิชีวนะอีกด้วย
ส่วนผสมน้ำสมุนไพร 5 เกลอแก้ภูมิแพ้
- กระชายขาว
- ตะไคร้
- ใบมะกรูด
- หอมแดง
- ข่า
- น้ำผึ้ง
- น้ำดื่ม 1.5 ลิตร
วิธีทำน้ำสมุนไพร 5 เกลอแก้ภูมิแพ้
- นำสมุนไพรทั้งหมดล้างให้สะอาด แล้วทุบพอให้แหลกหยาบ ๆ
- นำสมุนไพรที่ทุบแล้วใส่ลงหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมสมุนไพร
- ต้มสมุนไพรประมาณ 15-20 นาที ให้เดือดจนมีกลิ่นหอม
วิธีดื่มน้ำสมุนไพรแก้อาการภูมิแพ้ เป็นหวัด คัดจมูก มีเสมหะ
- ดื่มขณะอุ่น ๆ โดยตักใส่แก้ว เติมน้ำผึ้งตามชอบ หรือไม่เติมก็ได้
- ดื่มต่อเนื่อง 3-5 วัน หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น

5. น้ำกระชาย ใบเตย น้ำผึ้ง เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย
หากใครที่ต้องการเติมดื่มน้ำหวานเพื่อความสดชื่น ลองเมนูน้ำต้มสมุนไพรสูตร กระชาย ใบเตย และน้ำผึ้ง แต่ถ้าใครไม่มีใบเตย หรือต้องการให้มีกลิ่นกระชาย ไม่ต้องใช้ใบเตยก็ได้ค่ะ
ส่วนผสมน้ำสมุนไพร กระชาย ใบเตย น้ำผึ้ง
- กระชาย
- น้ำผึ้ง
- ใบเตย (มีหรือไม่มีก็ได้)
- น้ำเปล่า
วิธีทำน้ำกระชายน้ำผึ้งใบเตย
- ล้างกระชายให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- นำกระชายที่หั่นแล้วใส่ลงเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำ 1 แก้ว ปั่นให้ละเอียด
- นำน้ำกระชายปั่นมากรอง 3 รอบ เพื่อให้ได้หัวเชื้อกระชายไร้ฟองและเศษเนื้อ
- นำใบเตยไปต้มกับน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ประมาณ 10 นาที ให้เดือดจนมีกลิ่นหอม
- พักน้ำใบเตยให้เย็น
- นำน้ำใบเตยผสมกับน้ำกระชายที่กรองไว้แล้ว จากนั้นเติมน้ำผึ้งแล้วชิมรสตามชอบ แล้วตักใส่ภาชนะ นำไปแช่ตู้เย็น เก็บได้ประมาณ 3 วัน
วิธีดื่มน้ำกระชายน้ำผึ้งใบเตย
- ดื่มได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ

6. น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว
น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว สูตรนี้เปลี่ยนจากน้ำใบเตยเป็นน้ำมะนาว เพื่อเติมความเปรี้ยวสดชื่นมากขึ้น และยังได้วิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ส่วนผสมน้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว
- กระชาย
- มะนาว
- น้ำผึ้ง
- น้ำดื่ม
- เกลือ
วิธีทำน้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว
- ล้างกระชายให้สะอาด
- หั่นกระชายให้เป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไปปั่นกับน้ำเล็กน้อย จนละเอียด
- นำกระชายปั่นไปกรองเอาแต่น้ำ 2-3 รอบ อย่าให้มีฟองและกากเนื้อกระชายติดมา เพราะจะทำให้ขม
- นำน้ำหัวเชื้อกระชาย (น้ำกระชายผ่านการกรอง 2-3 รอบ) ผสมกับน้ำต้มสุก
- เติมน้ำผึ้ง น้ำมะนาว และเกลือ ลงไปผสมกับน้ำกระชาย ชิมรสตามชอบ
- เก็บแช่เย็นได้ประมาณ 3-4 วัน
วิธีดื่มน้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว
- ดื่มได้ทั้งแบบแช่เย็น หรือ ดื่มขณะอุ่น ๆ เพื่อเติมความสดชื่น และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

7. น้ำสมุนไพรข่า หรือ ชาข่า แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
เมื่อมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือผู้ที่มักจะมีอาการท้องอืดบ่อย ๆ แนะนำให้ทำน้ำสมุนไพรจากข่าแก่ หรือดื่มชาข่าง่าย ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
ส่วนผสมชาช่า
- ข่าแก่
- น้ำตาลทรายแดง
- น้ำมะนาว
- น้ำร้อนจัด
วิธีทำชาข่า
- หั่นข่าแก่ให้เป็นแว่นบาง ๆ แล้วใส่ภาชนะปิดให้มิดชิด
- นำข่าไปตากแดดให้แห้งสนิท ประมาณ 2-3 วัน
- เก็บข่าหั่นแว่นตากแห้งในภาชนะและในที่ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา
วิธีดื่มชาข่าแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ
- นำข่าตากแห้งใส่แก้ว 3-5 ชิ้น
- เทน้ำร้อนใส่แก้ว
- รอให้น้ำเปลี่ยนสี (เป็นสีจากข่าละลายน้ำ)
- เติมน้ำทรายแดงและมะนาวตามชอบ (เติมหรือไม่เติมก็ได้)

คุณสมบัติของสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นน้ำสมุนไพร
- ขิง : แก้อาการท้องอืด จุกเสียด ปวดท้อง บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถ เมาเรือ บรรเทาอาการไอ และขับเสมหะ
- ข่า : แก้อาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- กะเพรา : ขับลม จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยไขมัน
- ตะไคร้ : ขับลมในลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะ
- ใบเตย : ช่วยบำรุงประสาท แก้อ่อนเพลีย ลดความดันโลหิต บรรเทาโรคข้อ และโรครูมาตอยด์
- กระชาย : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ